ซอฟัรเดือนแห่งความเศร้า

เดือนซอฟัร เป็นเดือนแห่งความโศกเศร้าเนื่องจากในประวัติศาสตร์ เดือนนี้มีเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าเกิดขึ้นกับโลกมุสลิมหลายเหตุการณ์ นับตั้งแต่ต้นเดือนที่มุสลิมยังไม่คลายความโศกเศร้าจากเหตุการณ์วันอาชูรอ มุสลิมที่รักอิมามฮุเซน(อ.)

ซอฟัรเดือนแห่งความเศร้า

 

เดือนซอฟัร เป็นเดือนแห่งความโศกเศร้าเนื่องจากในประวัติศาสตร์ เดือนนี้มีเหตุการณ์สำคัญที่น่าเศร้าเกิดขึ้นกับโลกมุสลิมหลายเหตุการณ์ นับตั้งแต่ต้นเดือนที่มุสลิมยังไม่คลายความโศกเศร้าจากเหตุการณ์วันอาชูรอ มุสลิมที่รักอิมามฮุเซน(อ.) จะยังอยู่ในช่วงการไว้อาลัยต่ออิมามฮุเซน(อ.) มาจนถึงวันที่ 20 ซอฟัร ซึ่งตรงกับวันอัรบะอีน หรือวันครบรอบ 40 วันจากเหตุการณ์นองเลือดที่กัรบะลาเมื่อวันอาชูรอ มีวันคล้ายวันชะฮาดัตของอิมามฮะซัน(อ.) และอิมามอะลี ริฎอ(อ.)

 

เดือนนี้ ยังมีเหตุการณ์ที่น่าเศร้าและสำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่ง เป็นเหตุการณ์สูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของอิสลาม นั่นคือ การจากไปของศาสดามุฮัมมัด(ศ.) เมื่อวันที่ 28 ซอฟัร ปีฮิจเราะฮ์ศักราชที่ 11

 

วันที่ 28 ซอฟัรของทุกปี เป็นวันคล้ายวันวะฟาตของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) และวันชะฮาดัตอิมามฮะซัน(อ.)

 

เนื่องในโอกาสอันโศกเศร้านี้ เราขอแสดงความเสียใจมายังอิมามมะฮ์ดีย์(อ.) อิมามแห่งยุคสมัยของเรา, ประชาชาติมุสลิม และผู้ศรัทธาชายหญิงทุกคนที่มีความรักต่ออะฮ์ลุลบัยต์(อ.)

 

การวายชนม์ของท่านศาสดา(ศ.)

 

ตั้งแต่วันเสาร์ สุขภาพของท่านศาสดา(ศ.) เริ่มทรุดลง แต่ท่านยังคงไปนำนมาซที่มัสยิดจนกระทั่งถึงเช้าวันจันทร์ที่ท่านสามารถไปมัสยิดได้ด้วยการให้อิมามอะลี(อ.) และท่านอิบนฺ อับบาส ช่วยประคอง หลังจากเสร็จสิ้นการนมาซและกลับถึงบ้านแล้ว ท่านอ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ท่านได้บอกให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ไปนำอิมามฮะซัน(อ.) และอิมามฮุเซน(อ.) มาหาท่าน เมื่อท่านทั้งสองมาถึง ท่านศาสดา(ศ.) ได้จุมพิตท่านทั้งสองและกอดพวกท่านไว้

 

ต่อจากนั้นท่านศาสดา(ศ.) ได้บอกให้ท่านหญิงฟาฏิมะฮ์(อ.) ไปตามอิมามอะลี(อ.) มา เมื่อิมามอะลี(อ.) มาถึง ท่านศาสดา(ศ.) ได้ให้อิมามอะลี(อ.) เข้ามาใต้ผ้าคลุมของท่านและกอดท่าน หลังจากนั้นท่านได้ขอให้อิมามอะลี(อ.) ประคองท่านไว้ในอ้อมแขน อิมามอะลี(อ.) จึงประคองท่านไว้โดยที่ท่านศาสดา(ศ.) ได้พิงศีรษะของท่านไว้ที่ไหล่ของอิมามอะลี(อ.) ท่านกล่าวว่า "วาระสุดท้ายของฉันกำลังใกล้เข้ามาแล้ว โอ้อะลี เจ้าคือพี่น้องของฉัน ผู้สืบทอดของฉัน และผู้จ่ายหนี้สินของฉัน เจ้ารู้ว่าฉันได้หยิบยืมจากชาวยิวคนหนึ่งเพื่อใช้จ่ายในการเร่งเดินทางของอุซามะฮ์ เจ้าจงชดใช้มันด้วย" อิมามอะลี(อ.) ได้สัญญาว่าจะจ่ายคืนหนี้นั้น ท่านจึงกล่าวต่อไปว่า "จงทำสัญญาของฉันให้เป็นจริงแก่ประชาชน" อิมามอะลี(อ.) สัญญาที่จะทำตามคำสัญญาของท่าน หลังจากนั้นท่านจึงกล่าวว่า "หลังจากฉันตาย จงอาบน้ำฉันและวางฉันลงในสุสานด้วยมือของเจ้า ให้ใบหน้าของฉันหันไปหากะอฺบะฮ์ และจงนมาซญะนาซะฮ์ให้แก่ฉัน โอ้อะลี จงอย่าจากฉันไปจนกระกว่าเจ้าได้ฝังฉันแล้ว เจ้าจะพบกับเรื่องลำบากใจอย่างมากมายภายหลังการตายของฉัน แต่จงมีความอดทน เจ้าจะได้เห็นประชาชนไล่ตามความปรารถนาต่อโลกใบนี้ แต่เจ้าเลือกชีวิตในปรโลก อะลี เจ้าจะเป็นคนแรกที่ไปพบฉันที่เกาษัร"

 

ท่านศาสดา(ศ.) ยังพูดกับอิมามอะลี(อ.) ต่อไปจนกระทั่งลมหายใจสุดท้าย ถ้อยคำสุดท้ายของท่านคือ ซอลาต ซอลาต, ซอลาต (นมาซ นมาซ นมาซ) ท่านกล่าวคำนี้จนกระทั่งเงียบไป และน้ำลายจากปากของท่านไหลลงบนอิมามอะลี(อ.)  [Madarejun Naboova, เล่ม 2, sohk 511].

 

ท่านศาสดา(ศ.) สิ้นลมหายใจบนตักของอิมามอะลี(อ.) เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ซอฟัร ปีฮ.ศ.11 ทำให้โลกมุสลิมตกอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ

 

ในการกล่าวธรรมเทศนาครั้งสุดท้าย ท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) ได้กล่าวว่า

 

"มนุษยชาติทั้งหมดมาจากอาดัมและฮะวา คนอาหรับไม่ได้มีความสูงส่งไปกว่าผู้คนที่ไม่ใช่อาหรับ และคนที่ไม่ใช่อาหรับก็ไม่ได้มีความสูงส่งไปกว่าคนอาหรับ เช่นเดียวกัน คนผิวขาวไม่ได้มีความสูงส่งไปกว่าคนผิวดำ และคนผิวดำก็ไม่ได้มีความสูงส่งไปกว่าคนผิวขาว นอกจากด้วยความศรัทธาและการกระทำความดี จงรู้ไว้ว่ามุสลิมทุกคนคือพี่น้องกัน และมุสลิมประกอบขึ้นเป็นหนึ่งภราดรภาพ ไม่มีสิ่งใดที่เป็นของมุสลิมคนหนึ่งจะเป็นความชอบธรรมของมุสลิมอีกคนหนึ่งนอกเสียจากมันถูกมอบให้ด้วยความอิสระและความเต็มใจ ดังนั้น จงอย่าทำอยุติธรรมต่อตัวของพวกเจ้าเอง จงจำไว้ว่าวันหนึ่งพวกเจ้าจะได้พบกับอัลลอฮ์และตอบคำถามการกระทำของพวกเจ้า ดังนั้น จงระวัง อย่าหลงออกจากหนทางอันถูกต้องเที่ยงตรงหลังการจากไปของฉัน"

 

อิสลามสาส์นเพื่อทางรอดพ้นของมนุษยชาติ มันเป็นคำสอนเพื่อปกป้องมนุษย์ไม่ใช่เพื่อการทำลาย อิสลามไม่ใช่ลัทธิก่อการร้าย ไม่ใช่คำสอนเพื่อการอาฆาตพยาบาท ไม่ใช่ความเกลียดชัง แต่เป็นความรัก กฎหมายอิสลามมีพื้นฐานบนคำสอนจากคัมภีร์อัล-กุรอานและแบบอย่างของท่านศาสดา(ศ.) ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อื่นทำ มีประมวลกฎหมายที่เข้มงวดแม้ในเรื่องสงคราม บรรดามุสลิมที่ขัดแย้งกับคำสอนของศาสดามุฮัมมัด(ศ.) และก่ออาชญากรรมความชั่วต่อเพื่อนมนุษย์จะต้องพบกับอัลลอฮ์(ซ.บ.) และตอบคำถามของพระองค์ เราทั้งหมดต้องพบกับการพิพากษาเหมือนกันทุกคน ขอให้เราทุกคนเป็นผู้ปฏิบัติตามแนวทางของท่านศาสดามุฮัมมัด(ศ.) อย่างแท้จริง

 

แสดงความเห็น