การประท้วงของสตรีทั้งหลายของอเมริกามีขึ้นในวันที่สองของการเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของการเป็นประธานาธิบดีของ “โดนัลด์ ทรัมป์” จากการตอบรับและการเข้าร่วมของผู้ต่อต้านประมาณกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศของอเมริกา

มีการประท้วงจากผู้ประท้วงในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ๆที่สำคัญในยุโรป เอเชียและแอฟริกาใน 637 จุดของการประท้วง โดยให้การสนับสนุนการเดินขบวนประท้วงหลักที่ต่อต้านทรัมป์ในนโยบายการเมือง, แนวทางการแก้ปัญหาของเขา และการปกป้องสิทธิมนุษยชนและสิทธิของสตรี

ตามที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรุงวอชิงตันเผยว่า มีประชาชนกว่าครึ่งล้านคน ในวันเสาร์ที่ผ่านมาได้รวมตัวกันประท้วงใน " The National Mall" และถนนใกล้เคียงในการประท้วงนี้ที่เป็นประวัติศาสตร์

ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ อ้างว่า ประชาชนเป็นจำนวนมากในช่วงเช้าของวันเสาร์ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ได้บุกเข้ายังสถานีรถไฟใต้ดินในกรุงวอชิงตัน เพื่อที่จะพาตนเองไปยังใจกลางเมือง และเข้าร่วมในการประท้วงต่อต้านทรัมป์ ซึ่งสถานีรถไฟใต้ดินได้เต็มไปด้วยกับผู้คนที่ส่วนมากเป็นสตรี

สถานีรถไฟใต้ดินกรุงวอชิงตัน รายงานว่า จนถึงเวลา  11.00 น ของวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการจำนวน 275,000 คน ที่เดินทางเข้าเมือง และในวันที่จัดพิธีสาบานตนของประธานาธิบดีมีผู้ใช้บริการเพียง 193,000 คน

การแสดงทัศนะเหยียดผิวสีและดูถูกสตรีชาวเม็กซิกันและชาวมุสลิมของทรัมป์ เป็นเหตุให้ชาวอเมริกาจำนวนมากเกิดความไม่พอใจต่อทรัมป์

สตรีคนหนึ่งที่เข้าร่วมในการประท้วงทั่วประเทศนี้กล่าวว่า “เรื่องนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการให้ความเคารพสิทธิของพวกเรา และการที่ประชาชนส่วนมากได้ออกมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิของพวกเขาและประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวอย่างเปิดเผยว่า จะไม่เคารพต่อสิทธิของพวกเรา”

ชาวอเมริกาได้มีการรวมตัวต่อต้านในรัฐต่างๆ หนึ่งสัปดาห์ก่อนพิธีการสาบานตน และการประท้วงได้ปะทุขึ้นในวันพิธีการสาบานตนที่นำไปสู่การปะทะกันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

บรรดาผู้ต่อต้านทรัมป์ได้จุดไฟเผารถยนตร์หลายสิบคัน และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ใช้แก๊สน้ำตาในการสลายการรวมตัวของพวกเขา

ที่มา – presstv.ir