ปี 2016 ปีแห่งความล้มเหลวทางการทูตของซาอุดีอาระเบีย

หนังสือพิมพ์ "เราะอุลเยาม์" ในบทวิเคราะห์หนึ่งได้อธิบายว่า ปี 2016 เป็นปีแห่งความล้มเหลวทางการทูตของซาอุดีอาระเบีย และเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการทูตของประเทศนี้หนังสือพิมพ์ "เราะอุลเยาม์" ในบทวิเคราะห์หนึ่งได้อธิบายว่า ปี 2016 เป็นปีแห่งความล้มเหลว

 

ปี 2016 ปีแห่งความล้มเหลวทางการทูตของซาอุดีอาระเบีย

 

หนังสือพิมพ์ "เราะอุลเยาม์" ในบทวิเคราะห์หนึ่งได้อธิบายว่า ปี 2016 เป็นปีแห่งความล้มเหลวทางการทูตของซาอุดีอาระเบีย และเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับการทูตของประเทศนี้

   

ในบทวิเคราะห์นี้ ซึ่งตีพิมพ์ในวันจันทร์ (2/1/2017) ได้ชี้ถึงความล้มเหลวทางการเมืองของซาอุดิอาระเบียที่มีต่ออิหร่าน ความขัดแย้งกับสหรัฐอเมริกาและความปราชัยต่างๆ ในสงครามซีเรียและเยเมน รวมทั้งนโยบายต่างๆ ในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศของประเทศนี้

 

 ตามรายงานนี้ ซึ่งโดยปกติแล้วซาอุดิอาระเบียจะรักษาบรรดาพันธมิตรและประเทศทั้งใหญ่และเล็กให้ยืนอยู่เคียงข้างตนโดยอาศัยการให้น้ำมัน แต่ในปี 2016 ไม่ประสบความสำเร็จในด้านนี้ และได้สูญเสียพันธมิตรจำนวนมากของตนไป

 

นอกจากนี้หนังสือพิมพ์นี้ยังได้กล่าวถึง “แผนการปฏิบัติการร่วมอย่างครอบคลุมรอบด้าน” (Joint Comprehensive Plan of Action หรือ JCOOA) เกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ถือเป็นอีกความปราชัยหนึ่งสำหรับซาอุดิอาระเบีย รัฐบาลริยาดคัดค้านทุกวิถีทางต่อข้อตกลงเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และพยายามขัดขวางไม่ให้มีการบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์นี้มาโดยตลอด

 

      

ตามรายงานนี้ ความปราชัยครั้งร้ายแรงทางการเมืองของซาอุดีอาระเบียในปี 2016 ที่เกิดจากสหรัฐอเมริกา คือการที่วอชิงตันได้กล่าวหาริยาดและอีกบางประเทศอาหรับในแถบอ่าวเปอร์เซีย (ตอนใต้) ว่าเป็นผู้สนับสนุนการก่อการร้ายในซีเรีย

    

นอกจากนี้สภาคองเกรสของสหรัฐอเมริกา ได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่งซึ่งอนุญาตให้พลเมืองชาวอเมริกันสามารถร้องเรียนซาอุดีอาระเบียได้ ในกรณีเกี่ยวกับบทบาทของพลเมืองซาอุดิอาระเบียจำนวนหนึ่งในเหตุการณ์การโจมตีก่อการร้าย 11 กันยายน 2001

   

เช่นเดียวกันนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของเขา เขาได้กล่าวว่า “ซาอุดิอาระเบียจำเป็นจะต้องจ่ายค่าใช้จ่ายทางด้านการทหารแก่วอชิงตันในการปกป้องกันริยาด”

   

บนพื้นฐานของการวิเคราะห์นี้ กรณีต่างๆ ที่ได้กล่าวไปนั้นได้กลายเป็นปีแห่งความตรึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอเมริกา

    

สงครามเยเมนและการเข่นฆ่าพลเรือนในประเทศอาหรับที่ยากจนนี้ ก็เป็นอีกหนึ่งในกรณีทั้งหลายที่กลุ่มประเทศตะวันตกได้ตำหนิและถือว่าซาอุดิอาระเบียเป็นผู้มีความผิด อังกฤษและแคนาดาได้กล่าวหาซาอุดิอาระเบียว่าเข่นฆ่าพลเรือนในเยเมน กระทั่งว่าได้จำกัดการขายอาวุธให้กับประเทศนี้

   

ความพ่ายแพ้ของกลุ่มก่อการร้ายตักฟีรีทั้งหลายในสงครามซีเรีย ที่ได้การสนับสนุนโดยซาอุดีอาระเบีย ก็ถูกนับว่าเป็นอีกหนึ่งความปราชัยของริยาดในเวทีการเมืองต่างประเทศของริยาด

    

นอกจากนี้ในการวิเคราะห์นี้ยังได้ชี้ถึงความล้มเหลวของซาอุดีอาระเบียในการรักษาความสัมพันธ์กับตุรกี, อียิปต์และกาตาร์ รวมทั้งการสูญเสียอิทธิพลทางการเมืองในเลบานอนด้วย

 

 

ที่มา : PressTV

Cr: http://www.islamicstudiesth.com/index.php/12-analysis-of-world/750-2016-...

แสดงความเห็น