ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ ตอนที่ 3

ขบวนการของท่านอิมามฮุเซน (อ) เริ่มต้นที่เมืองมักกะฮฺและมุ่งสู่กูฟะฮฺ ขบวนการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮฺดี (อ) ก็จะเริ่มที่มักกะฮฺและจะมุ่งสู่กูฟะฮฺเช่นกัน

ปรมัตถ์แห่งการพลี สดุดีอาชูรอ ตอนที่ 3

 

ขบวนการปฏิวัติโลกของท่านอิมามมะฮฺดี(อ) คือการสานต่อขบวนการของท่านอิมามฮุเซน(อ)

 

บรรยายโดย ท่านฮุจญตุลอิสลาม ซัยยิด สุไลมาน ฮุซัยนี

 

 

“ขบวนการของท่านอิมามฮุเซน (อ) เริ่มต้นที่เมืองมักกะฮฺและมุ่งสู่กูฟะฮฺ ขบวนการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮฺดี (อ) ก็จะเริ่มที่มักกะฮฺและจะมุ่งสู่กูฟะฮฺเช่นกัน”

 

เป็นอีกความเหมือนหนึ่ง ระหว่างการปฏิวัติของท่านอิมาม ฮุเซน(อ) กับการปฏิวัติของท่านอิมามมะฮฺดี(อ) หรือแม้แต่คำเรียกร้องเชิญชวนสโลแกน หรือวาทกรรมหลัก ที่ท่านอิมามฮุเซน(อ)เรียกร้องในการปฏิวัติของท่านนั้น ท่านอิมามมะฮฺดี(อ) ก็จะกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่งด้วย

ในตัวฮะดิษมีรายละเอียดถึงขั้นเป็นประโยคเดียวกันกับท่าน อิมามฮุเซน(อ) ใช้ประกาศ นั้นคือ

“ไม่เห็นดอกหรือว่า สัจธรรมไม่ได้ถูกนำมาปฏิบัติ และโมฆะกรรมกับกลายเป็นสิ่งที่ถูกยึด”

กล่าวคือ “โอ้มวลมนุษยชาติ โอ้มวลมุสลิมผู้ศรัทธาไม่เห็นดอกหรือ ว่า วันนี้นั้นสัจธรรมไม่ได้ถูกปฏิบัติแล้ว ไม่เห็นดอกหรือ ความมดเท็จ(บาฏิล) ต่างๆกลับกลายเป็นสิ่งที่ถูกยึดถือ  กลับกลายเป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่ละเว้น”

ท่านอิมาม(อ) ได้กล่าวกับมนุษยชาติและมุสลิมในภาพรวม และอัลฮัมดุลิลลาฮฺ เหตุการณ์ต่างๆในวันนี้ได้ยืนยันถึงคำพูดนี้แล้ว เมื่อพิจารณาการปรากฏตัวของกลุ่มไอซิส  กลุ่มตักฟีรี  โดยสรุปก็คือ การปรากฏตัวของซุฟยานีนั้นเอง เป็นการปรากฏตัวของบุคคลที่นิยมชมชอบในอิสลามของบนีอุมัยยะฮฺ มันเริ่มปรากฏตัวในรูปแบบที่ชัดแจ้ง และในวันนี้มวลมุสลิมจำนวนมากขานรับ ต่อการปรากฏตัวของอิสลามอันจอมปลอมเหล่านี้ โมฆะกรรมกำลังถูกยอมรับไปทั่วโลก อิสลามแห่งบนีอุมัยยะฮฺได้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่จะเผชิญหน้ากับอิสลามของอะฮฺลุลบัยตฺ(อ)

อิหร่าน เป็นแผ่นดินกัรบาลาอฺขนาดย่อมก่อนกัรบาลาออันสมบูรณ์แบบของอิมามมะฮฺดีจะปรากฏขึ้น

ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่อิสลามบนีอุมัยยะฮฺได้กลับมาอย่างสมบูรณ์ เหตุการณ์กัรบาลาอฺ และวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ก็จำต้องเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ด้วยคำสัญญาของบรรดาอะฮฺลุลบัยต(อ) และจากบรรดาอาเล็มอุลามาอฺยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การกลับมาคราวนี้ “เพื่อชัยชนะ”

กัรบาลาอฺแห่งยุคสมัยท่านอิมามมะฮฺดี(อ) นั้น หมายถึงยะซีดจะต้องถูกสังหารและพลพรรค ของบนีอุมัยยะฮฺจะต้องถูกทำลาย จนไม่เหลือซากอีกต่อไปในโลก

เหล่านี้คือ สัญญาหนึ่งที่บรรดาอะอิมมะฮฺได้สัญญาไว้ การห่ำหั่นกันคราวนี้จะเกิดในทุกรูปแบบ ตั้งแต่ด้วยคมดาบของวีรชนแห่ง   กัรบาลาอฺในยุคของท่านอิมามมะฮฺดี(อ) รวมทั้งด้วยการลงโทษจาก อัลลอฮฺ(ซบ) โดยตรง ซึ่งเรามีริวายัตเป็นจำนวนมาก เช่น ธรณีจะสูบพลพรรคของซุฟยานีในระหว่างเส้นทางอิรักกับซีเรีย

ดังนั้น แบบฉบับการพลีของท่านอิมามฮุเซน(อ)และบรรดาวีรชนแห่งกัรบาลาอฺ ก็เพื่อสิ่งนี้ เป็นแบบฉบับที่ถูกกำหนดมาเพื่อเป็นพิมพ์เขียวให้วิศวกรสังคมยุคสมัยของอิมามมะฮฺดี(อ) นำมาก่อฐานรากสร้างสังคมปฏิวัติ ด้วยการปลูกฝังจิตวิญญาณและวิถีชีวิตแห่งการพลีนี้ เพื่อนำมารับใช้ท่านอิมามมะฮฺดี(อ )และให้สัตยาบันต่อสนธิสัญญาที่เอกองค์ อัลลอฮฺ(ซบ.)ได้สัญญาไว้แก่มวลมนุษยชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก่มวลชนผู้ถูกกดขี่ทั้งหลาย นัยยะสำคัญ หนึ่งในความแตกต่างระหว่างการพลีของท่าน อิมามฮุเซ็น(อ)กับการพลีในกัรบาลาอฺของท่านอิมามมะฮฺดี(อ)คือ จะต้องมีการพลีก่อนการปรากฏตัวของท่าน อิมามมะฮฺดี(อ)

ในประเด็นนี้เรามีริวายัตต่างๆอย่างมากมาย รายงานว่า ก่อนถึง กัรบาลาอฺอันสมบูรณ์ของท่านอิมามมะฮฺดี(อ) ที่จะชำระหนี้เลือดให้กับกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซ็น(อ) นั้น สภาพการณ์กัรบาลาอฺ ขนาดย่อมๆจะเกิดขึ้นทั่วทั้งโลก เหมือนเช่น ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) ได้ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชาติชาวอิหร่านกลายเป็นวีรชน แห่งกัรบาลาอฺ และอิหร่านกลายเป็นแผ่นดินแห่งกัรบาลาอฺในยุคสมัยของท่าน !

สภาพการณ์นี้ เป็นสิ่งที่เราไม่อาจปฏิเสธได้ และได้ช่วยอธิบายประโยคหนึ่งที่ได้ถูกกล่าวไว้ว่า          

کل یوم عاشوراء و کل ارض کربلاء

“วันทุกวันคืออาชูรอ และทุกผืนดินคือกัรบาลาอ์” ฉะนั้น วีรชนกัรบาลาอฺจะเกิดทุกแผ่นดินทั่วทุกภูมิภาคในโลกนี้!

หากเราพิจารณา ริวายัตเรื่องการปรากฏตัวของอิมามมะฮฺดี (อ) จะเห็นว่า ได้กำหนดเงื่อนไขการปรากฏของอิมาม(อ) ประการหนึ่งว่า อิมาม(อ) จะยังไม่ปรากฏ จนกว่า บรรดาชีอะฮฺทั้งโลกนี้จะสร้างเกราะกำบังให้กับท่าน และจนกว่ารัฐอิสลามฉบับคู่มือเตรียมตัว จะต้องเกิดขึ้นก่อน และท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) ได้ทำให้เกิดขึ้นแล้ว

ท่านอิมามโคมัยนี(รฎ) ได้ประกาศอย่างชัดเจนในการปฏิวัติของท่านว่า การปฏิวัตินี้ประสบความสำเร็จ เพราะสตรีของเรา นั้นคือ ซัยหนับแห่งยุคสมัยเหล่าวีรบุรุษและเยาวชนก็เช่นเดียวกัน รวมทั้งนักรบผู้พลีในอิหร่าน พวกเขาเหล่านั้นได้แสดงบทบาทวีรชนแห่งกัรบาลาอฺให้ปรากฏขึ้นแล้ว ตามที่ได้เล่าก่อนหน้านี้ว่า เมื่อค่ำที่ 5 และ 6 ท่านซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮฺ เลขาธิการฮิซบุลลอฮฺในเลบานอน ได้ออกมาประกาศอย่างภาคภูมิใจว่า “กัรบาลาอฺแห่งเลบานอนได้เกิดขึ้นแล้ว!” เราฮิซบุลลอฮฺได้แสดงแบบ ดั่งเช่น วีรชนแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซ็น(อ) ได้แสดงแบบไว้ ท่านได้ออกมาประกาศอย่างผู้ที่เข้าใจในเนื้อหาว่า กัรบาลาอฺแห่งฮุเซ็น(อ) ประสงค์จะมอบสิ่งใดและปรารถนาให้อะไรเกิดขึ้นกับโลกนี้ ท่านยังได้กล่าวว่าเหล่าสตรีของเรา  เหล่าวีรบุรุษของเรา ได้เป็นเยี่ยงวีรสตรีและวีรบุรุษแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซน(อ)แล้ว

สรุป ท่านซัยยิดฮะซัน นัศรุลลอฮฺ ยืนยันว่า กัรบาลาอฺแห่งเลบานอนได้เกิดขึ้นแล้ว เช่นเดียวกันผู้นำสูงสุดในยุคปัจจุบันท่าน อิมามคาเมเนอี ได้กล่าวถึงเช่นกันว่า

“การรำลึกที่แท้จริงถึงกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซน(อ) นั้น ก็คือ บรรดาผู้รำลึกนำเรื่องแห่งกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซน(อ) มาปรับใช้ในวิถีชีวิตยุคปัจจุบันของเขา” ทั้งนี้ท่านอิมามคาเมเนอี ได้ยืนยันประเด็นนี้ หลายครั้งต่างกรรมต่างวาระ ว่า การรำลึกนี้ไม่ได้เป็นแต่เพียงการรำลึกด้านประวัติศาสตร์เท่านั้น แต่เป็นการรำลึกเพื่อปลูกฝังจิตวิญญาณแบบนี้ให้เข้าไปอยู่ในครอบครัวของเราจริงๆ ไม่ใช่เพียงตัวของเราแต่เป็นในครอบครัวของเรา เพราะวันหนึ่งจะมาถึง วันที่ทุกคนจะต้องแสดงบทบาทของวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆและสตรี  การปรากฏตัวของกลุ่มไอซิส ยืนยันถึงเรื่องนี้ ปัจจุบันนักรบ อเวจี เหล่านี้ไม่เว้นชีวิตใคร แม้แต่ซักคนเดียว มีเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย และผู้ที่รำลึก “กัรบาลาอฺ” อย่างแท้จริง มองเห็นว่า มันไม่ใช่เป็นเรื่องประวัติศาสตร์ แต่เป็นเรื่องที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อให้พวกเขาแสดงต่อ และมีผู้แสดงเช่นนั้นจริงๆ

เมื่อไม่นานมานี้เหตุเกิดในแผ่นดินอิรัก รถบัสจากอิหร่านเข้าไปซียารัตและถูกจับโดยกลุ่มไอซิส

เบื้องต้น พวกมันได้เรียกผู้ชายลงมาจากรถทั้งหมดประมาณสิบคนและบอกให้ทุกคนสาปแช่งท่านอิมามอะลี(อ) แต่ไม่มีใครกล่าวสาปแช่ง พวกไอซิสได้จับชีอะฮฺคนที่หนึ่งแล้วขู่ว่า จะเชือดคอคนนี้ให้ดูก่อน ถ้าพวกเจ้าอีกเก้าคนไม่สาปแช่งอิมามอะลี ก็จะถูกเชือดเหมือนคนนี้ แล้วพวกมันก็ทำการเชือดคอคนแรกขาดสะบั้น หากถามว่า ชายคนนี้ถูกเชือดคอเพราะเหตุใด?

เขาถูกเชือดเพราะเขาไม่ประณามท่านอิมามอะลี(อ) ทีนี้ย้อนกลับมาที่ตัวเรา แล้วถามว่า ถ้าพวกเราเป็นคนที่สอง สาม สี่ ห้า หกจนไปถึงคนที่สิบเราจะทำอย่างไร? เราจะเลือกหัวขาดสะบั้นหรือจะเลือกประณามท่านอิมามอะลี(อ)

ไม่ต้องตอบและอย่าตอบอย่างเด็ดขาด ถ้าหากเราไม่ใช่ผู้ที่ยืนดูการเชือดคนที่หนึ่ง ! แต่อัลฮัมดุลิลละฮฺ ในวันนั้นชีอะฮฺ ทั้งสิบคนที่ถูกนำลงมาจากรถบัสถูกเชือดคอทั้งสิบคน หลังจากนั้นพวกมันได้กราดยิงทั้งเด็กๆและสตรีบนรถเสียชีวิตทั้งหมด เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

ความจริงเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว มันเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า จนทุกวันนี้ก็ยังมีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอยู่ ตัวอย่างที่ได้ยกมานั้น เพื่อจะยืนยันว่า “การรำลึกวีรกรรมแห่งกัรบาลาอฺ ไม่ใช่การรำลึกเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์ แต่วีรกรรมและจิตวิญญาณนี้”

บรรดาชีอะฮฺทั้งหลายจะต้องร่วมแสดงต่อไป หากปราศจากการปลูกฝังจิตวิญญาณของท่านอิมามฮุเซน(อ)แล้ว ยากยิ่งที่ใครจะสามารถผ่านพ้นการทดสอบอันยิ่งใหญ่นี้ได้

“กัรบาลาอฺ”ต้องการที่จะปลูกฝังจิตวิญญาณเช่นนี้และจะต้องเกิดขึ้นทั้งครอบครัว ลูกของเรา ภรรยาของเรา สตรีของเราทุกๆคน จะต้องมีจิตวิญญาณแห่งวีรสตรีแห่งกัรบาลาอฺ เช่น ‘อุมมุลวาฮับ’ ได้โยนศีรษะของลูกชายกลับไปยังสนามรบ และได้ตะโกนออกไปว่า เราจะไม่รับคืนในสิ่งที่เราได้กุรบานให้กับอัลลอฮฺ (ซบ) แล้ว

เรื่องราวต่างๆในลักษณะนี้กำลังเกิดขึ้นในแผ่นดินอิรัก  แผ่นดินซีเรีย มีอุลามาอฺอิหร่านท่านหนึ่ง ไปซิยารัตที่ ‘ซามัรรอ’ ไป     ซิยารัตท่านอิมามฮาดี(อ) ซิยารัตท่านอิมามอัสการี(อ) และถูกพวกไอซิสเหล่านี้จับได้ พวกมันได้เชือดคอท่านพร้อมครอบครัว ทั้งหมดนี้ เป็นพฤติกรรมของบนีอุมัยยะฮฺแห่งกัรบาลาอฺมันได้กลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง

การปฏิวัติของท่านอิมามมะฮฺดี(อ) ต้องอาศัยพลังทั้งหมด ทั้งจากวีรบุรุษและวีรสตรีแห่งกัรบาลาอฺในยุคสมัยของตน

เราจะต้องปลูกฝังครอบครัวของเราให้รักการพลีเพื่อศาสนา พร้อมที่จะพลีบุคคลในครอบครัวของเราให้กับศาสนา แม้นว่าเราจะมีความรักความผูกพันในครอบครัวมากสักขนาดไหนก็ตาม แต่ความรักความผูกพันนี้ก็พร้อมที่จะพลีในหนทางของอัลลอฮฺ(ซบ) และพลังที่จะก่อเกิดขึ้นต่อจิตวิญาณแบบนี้ คือ พลังที่เราได้รับการซึมซับถ่ายทอดมาจากกัรบาลาอฺของท่านอิมามฮุเซน(อ) เท่านั้น

 

ที่มา –เว็บไซต์ syedsulaiman

 

แสดงความเห็น