حضرت علی علیه‌ السلام

และพวกเขาได้ให้อาหารแก่คนยากจน เด็กกำพร้าและเชลยศึก ทั้งที่มีความปรารถนาต่อมัน (พวกเขากล่าวว่า) แท้จริงเราให้อาหารแก่พวกท่าน โดยหวังความโปรดปรานของอัลลอฮ์ เรามิได้หวังการตอบแทนและการขอบคุณจากพวกท่านแต่ประการใด
และพวกเขาได้ให้อาหารแก่คนยากจน เด็กกำพร้าและเชลยศึก ทั้งที่มีความปรารถนาต่อมัน (พวกเขากล่าวว่า) แท้จริงเราให้อาหารแก่พวกท่าน โดยหวังความโปรดปรานของอัลลอฮ์ เรามิได้หวังการตอบแทนและการขอบคุณจากพวกท่านแต่ประการใด
วันที่ 18 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ คือวันอีดฆอดีร และถือเป็นวัน "อีดุลลอฮิ้ลอักบัร" เป็นวันอีดของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ และเป็นวันอีดของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ)และบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ)อันบริสุทธิ์
วันที่ 18 ของเดือนซุลฮิจญะฮ์ คือวันอีดฆอดีร และถือเป็นวัน "อีดุลลอฮิ้ลอักบัร" เป็นวันอีดของพระองค์อัลลอฮ์ (ซ.บ) พระผู้ทรงยิ่งใหญ่ และเป็นวันอีดของท่านศาสดามุฮัมมัด (ศ)และบรรดาอะฮ์ลุลบัยต์ (อ)อันบริสุทธิ์
วันแห่งฆอดีรคุมคือวันแห่งตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า หลังจากยุคแห่งศาสดานั้นจะต้องสิ้นสุดลง แล้วเหตุการณ์นั้นถูกสานต่อจากระบบวิลายัตของบรรดาอะอิมมะฮฺ (อ)เข้ามาสู่ระบบของ วิลายะตุ้ลฟะกีฮฺ
วันแห่งฆอดีรคุมคือวันแห่งตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า หลังจากยุคแห่งศาสดานั้นจะต้องสิ้นสุดลง แล้วเหตุการณ์นั้นถูกสานต่อจากระบบวิลายัตของบรรดาอะอิมมะฮฺ (อ)เข้ามาสู่ระบบของ วิลายะตุ้ลฟะกีฮฺ
ทำไมจะต้องเป็นอำนาจที่มาจากพระเจ้า ?? นี่คือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องศึกษา เราจะต้องทำความเข้าใจ คือเราจะต้องรู้จักศาสนาของเราก่อน
ทำไมจะต้องเป็นอำนาจที่มาจากพระเจ้า ?? นี่คือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะต้องศึกษา เราจะต้องทำความเข้าใจ คือเราจะต้องรู้จักศาสนาของเราก่อน
อีดที่ถูกขนานนามว่า เป็นอีดแห่ง “อาลีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ)” อีดที่ยิ่งใหญ่จากทุกๆอีดที่มีมาในอิสลาม  นั่นก็คืออีดแห่งวันที่ศาสนาของอัลลอฮฺ(ซบ)สมบูรณ์ เพราะในวันนี้ในอดีตนั้น เป็นวันที่อัลลอฮฺ (ซบ)ได้ประทับตรารับรองอิสลามฉบับสมบูรณ์ ให้เป็นศาสนาแก่มวลมนุษยชาติได้ยึดถือและปฏิบัติจวบถึงวันกิยามะฮฺ
อีดที่ถูกขนานนามว่า เป็นอีดแห่ง “อาลีมุฮัมมัด (ศ็อลฯ)” อีดที่ยิ่งใหญ่จากทุกๆอีดที่มีมาในอิสลาม นั่นก็คืออีดแห่งวันที่ศาสนาของอัลลอฮฺ(ซบ)สมบูรณ์ เพราะในวันนี้ในอดีตนั้น เป็นวันที่อัลลอฮฺ (ซบ)ได้ประทับตรารับรองอิสลามฉบับสมบูรณ์ ให้เป็นศาสนาแก่มวลมนุษยชาติ
รายงานจาก อิมาเราะฮ์ บิน ญูวัยน์ อบีฮารูน อัลอับดีย์ กล่าวว่า  ฉันได้เข้าหาท่านอบีอับดิลลาฮ์ (อิมามญะอฺฟัร อัศศอดิก (อ) ในวันที่ 18 เดือน ซุลฮิจญะฮ์ ขณะที่ท่านอิมามอยู่ในสภาพที่ถือศีลอด ได้กล่าวว่า แท้จริงวันนี้ คือวันที่ อัลลอฮทรงทำให้มีความยิ่งใหญ่
วันนี้บรรดาผู้ปฏิเสธต่างหมดหวังในศาสนาของสูเจ้า ดังนั้น สูเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา แต่จงกลัวฉัน วันนี้ฉันได้ทำให้ศาสนาของสูเจ้าสมบูรณ์แล้วสำหรับสูเจ้า และฉันได้ประทานความโปรดปรานของฉันอย่างครบถ้วนแก่สูเจ้า และฉันได้เลือกอิสลามเป็นศาสนา[๑]  ความดึงดูดใจของเฆาะดีร[๒] อยู่ที่ความเอื้ออาทร และความรักที่มีอยู่ตลอดหน้าประวัติศาสตร์อิสลาม ซึ่งเป็นความปิติยินดีของคนบางกลุ่ม และเป็นความความข่มขื่นของคนอีกบางกลุ่ม  ขณะที่เฆาะดีร และเหตุการณ์ในวันนั้นเป็นเหตุผลสมบูรณ์สำหรับผู้ที่ปฏิบัติตามแนวทางของอะลี (อ.)
วันนี้บรรดาผู้ปฏิเสธต่างหมดหวังในศาสนาของสูเจ้า ดังนั้น สูเจ้าจงอย่ากลัวพวกเขา แต่จงกลัวฉัน วันนี้ฉันได้ทำให้ศาสนาของสูเจ้าสมบูรณ์แล้วสำหรับสูเจ้า และฉันได้ประทานความโปรดปรานของฉันอย่างครบถ้วนแก่สูเจ้า และฉันได้เลือกอิสลามเป็นศาสนา
แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นเมาลา (ผู้คุ้มครอง) ของฉัน และฉันเป็นวะลี (ผู้ปกครอง) ของผู้ศรัทธาทุกคน  จากนั้นท่านศาสดาได้จับมือท่านอาลี (ชูขึ้นเหนือศรีษะ) แล้วกล่าวว่า บุคคลใดก็ตามที่ฉันเป็นวะลีของเขา  ดังนั้นอาลีก็เป็นวะลีของเขา   โอ้อัลลอฮ์โปรดรักผู้ที่เป็นมิตรต่อเขา และโปรดชิงชังผู้ที่เป็นศัตรูต่อเขา
“แท้จริงอัลลอฮ์ทรงเป็นเมาลา (ผู้คุ้มครอง) ของฉัน และฉันเป็นวะลี (ผู้ปกครอง) ของผู้ศรัทธาทุกคน  จากนั้นท่านศาสดาได้จับมือท่านอาลี (ชูขึ้นเหนือศรีษะ) แล้วกล่าวว่า บุคคลใดก็ตามที่ฉันเป็นวะลีของเขา  ดังนั้นอาลีก็เป็นวะลีของเขา